top of page
bggh.jpg

โลกิ Loki

image.png

โลกี (นอร์สเก่า: Loki) เป็นเทพเกเรในเทพปกรณัมนอร์ส โลกีมีความขี้เล่นและซุกซน ในช่วงแรกนั้นโลกีได้ช่วยเหลือเหล่าเทพแห่งอาสการ์เดอร์ในการต่อสู้กับเหล่ายักษ์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความซุกซนของโลกีก็ยิ่งกลายเป็นความโหดร้ายยิ่งขึ้น เทพโลกีมีบุตร 3 ตน คือ หมาป่าเฟ็นรีร์, พญางูยอร์มุงกันเดอร์ และเฮ็ล เทวีแห่งอาณาจักรคนตาย ในวันรักนาร็อก (วันสงครามสิ้นโลก) บุตรทั้งสามของโลกีจะมีส่วนร่วมต่อสู้ในสงครามด้วย โลกียังเป็นผู้ให้กำเนิดม้าสเลย์ปนีร์ของโอดินน์

โลกีเป็นผู้สังหารบัลเดอร์ เทพแห่งความสุข โดยใช้กิ่งของต้นมิสเซิลโทซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ไม่เคยสาบานว่าจะไม่ทำร้ายบัลเดอร์ ทำเป็นลูกดอกแล้วหลอกให้เทพฮอเดอร์ผู้ตาบอดขว้างใส่บัลเดอร์ และเมื่อเทพเฮร์โมเดอร์ได้ไปตกลงกับเฮ็ลซึ่งจะยอมให้บัลเดอร์กลับจากยมโลกถ้าทุกชีวิตบนโลกร่ำไห้แก่บัลเดอร์ ยักษิณีซ็อกก์ปฏิเสธที่จะร่ำไห้ตามคำขอร้องของแอซีร์ผู้ส่งสาร ซึ่งเชื่อว่าซ็อกก์นั้นก็คือโลกีปลอมตัวมานั่นเอง เหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โลกีเป็นศัตรูกับเหล่าเทพแห่งอาสการ์เดอร์และถูกจับล่ามโซ่ไว้จนถึงวันรักนาร็อก

เพิ่มเติม

โลกิ เป็นเทพจอมเกเรจากประมวลเรื่องปรัมปรานอร์สหรือ ประมวลเรื่องปรัมปราสแกนดิเนเวีย ซึ่งเดิมตำนานเทพนอร์สนั้นเป็นส่วนหนึ่งของศาสนาเก่าแก่ของชาวนอร์ส ซึ่งเป็นความเชื่อพหุเทวนิยม(นับถือเทพองค์ใดก็ได้) และยังคงเล่าสืบเนื่องกันมาสู่ชนภายหลังของชาวสแกนดิเนเวียหรือยุโรป ตอนเหนือแม้ว่าภายหลังชาวสแกนดิเนเวียจะหันมานับถือศาสนาคริสต์เป็นส่วนมาก เนื้อเรื่องของโลกิในโลกภาพยนตร์นั้นได้กล่าวว่าโลกินั้นเป็นลูกบุญธรรมของโอดิน และเป็นน้องบุญธรรมของเทพธอร์ ภายหลังโลกิในภาพยนตร์ค่อย ๆ ปรับปรุงตัวจนเป็นเทพที่จิตใจดีขึ้น แต่โลกิในตำนานเทพนอร์สนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่ลำดับศักดิ์

ชั้้นของตัวโลกิ และที่แตกต่างอย่างมากก็คือ เมื่อยิ่งเวลาผ่านไป ความเกเรของโลกิ ก็ยิ่งก็ยิ่งถลำลึกจนกลายเป็นความโหดร้ายอย่างที่สุดและเป็นหนึ่งในชนวนเหตุทำ ให้เกิดมหาสงครามแรคนาร็อก (สงคราม วันล้างโลก) อีกด้วยความเชื่อของ Norse นั้นแบ่งจักรวาลออกเป็น 9 โลก ตามแขนงของต้น “อิกดราซิล” ต้นไม้แห่งเอกภพโดยแบ่ง พื้นที่เป็น

ดินแดนของชั้นบน ชาวสวรรค์ และ เอลฟ์ Asgard 

เป็นที่อยู่ของเทพกลุ่มแอซิร์ (Æsir) Vanaheim เป็นที่อยู่ของเทพ กลุ่มวานร์ Alfheim เป็นที่อยู่ของพวกเอลฟ์ 

ดินแดนชั้นกลางประกอบไปด้วย 

Midgard โลกมนุษย์ Jotunheim ดินแดนยักษ์ น้ำแข็ง Nidavellir โลกแห่งช่าง และเหมืองที่อยู่ของคนแคระ Swartalfheim ดินแดนแห่ง Dark Elf 

และดินแดนชั้นล่างสุด ประกอบด้วย Niflheim เป็นดินแดนแห่งความตาย ปกคลุมด้วยหิมะอันหนาวเย็น มีราชินี ชื่อเฮล หรือ เฮล่า ปกครองซึ่งเป็นลููกของโลกิบางครั้งก็เรียกดินแดนนี้ตามชื่อของ ราชินีเฮล Muspelheim ดินแดนที่มีเพลิงลุกไหม้ตลอดเวลา เป็นถิ่นของยักษ์ไฟ (Surt) เป็นผู้ปกครอง 

ตามตำนานได้กล่าวว่า โลกินั้นเป็นบุตรุ ของฟาโบติ (Fárbauti) โดยบิดาของโลกิ ถูกจัดว่าเป็นกลุ่ม Jötnar หรือ “ยักษ์ น้ำแข็็ง” ซึ่งอยู่ในชั้น Jotunheim และมารดา คือลอเฟย์ (Laufey) เป็นกลุ่่ม Æsir เทพเจ้าซึ่งแต่เดิมนั้นไม่ได้กล่าวถึงฐานะ ของโลกิ ว่าเป็นบุตรบุญธรรมของโอดิน แต่โลกิถูกจัดอันดับเป็นเทพที่มีชื่อคู่ เทียบเคียงกับโอดิน และ ธอร์ เลยทีเดียว เทพโลกินั้นรูปงาม มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด แต่ชอบหลอกลวง กลั่นแกล้งผู้คน และมักทำอะไรเกินเลยจนทำให้เกิดปัญหาอยู่เสมอ 

 

เรื่องราวของเทพโลกินั้นตามบันทึกโบราณไม่กล่าวถึงไว้ชัดเจนมากนัก แต่จะมา ปรากฏเป็นตัวละครชัดๆในช่วงยุุคกลาง(Medieval) โดยเฉพาะจากบันทึก Prose Edda ที่เขียนโดย Snorri Sturluson บทบาทของโลกินั้นก็เริ่มเด่นชัด มากขึ้น ซึ่งหลายคนมองว่าบทบาทของโลกินั้นคล้ายกับผู้แต่ง Snorri Sturluson นักประวัติศาสตร์โบราณซึ่งก็มีประวัติโชกโชนไม่เบาในแง่เล่ห์เหลี่ยมต่างๆเช่นกัน โลกิ นั้น หากว่ากันตามลำดับศักดิ์์ จริงนั้นถือได้ว่าเป็นลูกพีลูกน้องห่าง ๆ ของโอดิน ต่อมาได้สาบานเป็นพี่น้องกับโอดินและได้เลื่อนขั้นเป็นเทพแอสการ์ด แต่ภายหลัง ผู้แต่งนิยายได้แต่งให้โลกินั้นเป็นบุตรบุญธรรมของโอดิน เพื่อลดปัญหาความ ขัดแย้งระหว่างสองดินแดน คือ Asgard และ Jotunheim ทั้งนี้ โลกิ มีภรรยา 2 คน โดยภรรยาแรกคือ นางยักษ์ Angrboda (หรือ Fingerbode) มีลูกด้วยกัน 3 ตนคือ 1) หมาป่าเฟนริล์ (Fenrir) หรือ Fenrisulfr ตามตำนานเล่าว่าสามารถกลืนกินโลกทั้งใบได้ด้วยการกัดเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ Fenrir ยังเป็นคนที่ สังหาร Odin อีกด้วย

2) งูยักษ์มิดกาดโซรุม (Midgardsomrm) รู้จักอีกชื่อว่า ยอร์มุุนกานดร์ Jörmungandr ผู้สังหารธอร์ ความยาวของมันสามารถพันรอบโลกได้และ ยังมีเลือดที่มีพิษร้ายแรง 

3) เฮล (Hel หรือ Hela) เทวีแห่งอาณาจักรคนตายซึ่งเป็นศัตรูร้ายกับเทพอื่น กล่าวกันว่าเฮล่าเป็นผู้ที่อยู่เหนือความตายทั้งปวง เชื่อกันว่ามีรูปร่างหน้าตาน่า เกลียดน่ากลัว ครึ่งหนึ่งเป็นร่างมนุษย์ ส่วนอีกครึ่งเป็นร่างของซากศพเน่าเละเทะ (ในภาพยนตร์ Thor Ragnarok ได้กล่าวว่า เฮล่า เป็นลูกคนแรกของโอดิน เป็นพี่ สาวของธอร์ เป็นชนวนเหตุสงคราม) 

ภรรยาคนที่ 2 ของโลกิคือ นาง Sigyn ให้กำเนิด

4) นาร์ฟี Nerfe (หรือ Narfi) 

5) วาลี Vale (หรือ Vali) 

ทั้งนี้โลกินั้นมีสามีด้วย ซึ่งสามีของโลกินั้นเป็นม้าซึ่ง มีชื่อว่า ม้าสวาดิลฟารี (Svadilfare) อันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงสร้างโลก โดยเป็นเหตุการณ์ที่พวก เทพไม่อยากแพ้พนันมนุษย์ในการสร้างวิหาร “วัลฮาลา” ซึ่งหากวิหารดังกล่าวที่ สร้างโดยมนุุษย์นั้นเสร็จทันเวลาที่เทพกำหนด เทพจะต้องเสียแลกกับดวงอาทิตย์  ดวงจันทร์ และหัตถ์ของเทพธิดา Freya เป็นข้อแลกเปลี่ยน เมื่อเวลางวดใกล้เข้ามา ทีท่าว่าทางเทพนั้นจะต้องเสียพนัน โลกิซึ่งเป็นผู้ตั้งเงื่อนไข โดนเหล่าเทพรุุมโทษรุมประณามให้รับผิดชอบ โลกิจึงได้แปลงร่างเป็นม้าตัวเมีย ไปล่อลวงม้า สวาดิลฟาร ซึ่งเป็นม้าที่เป็นกำลังหลักในการสร้างวิหารให้เขวไม่ได้ไปสร้างวิหารให้เสร็จ ทันเวลาผลคือฝ่ายเทพชนะพนัน โลกิได้ลูกเป็นม้า “ลูกม้าแปดขา” ที่เรียกว่า “สไลป์เนียร์” (Sleipnir) ซึ่งเป็นม้าที่ดีที่สุดในโลกของมนุุษย์และเทพ ซึ่งต่อมา โลกิได้ยกให้เป็นม้าพาหนะของโอดิน เดินทางไปทั้ง 9 โลก ในจักรวาลเทพนอร์ส ทั้งนี้ขออธิบายสักนิดนึงว่า โลกินั้นมีความสามารถในการแปลงกาย ซึ่งหมายถึง แปลงเครื่องเพศได้ด้วย จึงเป็นต้นเหตุแห่งการกำเนิดม้า สไลป์เนียร์ นั่นเอง

ที่มา : https://thematter.co/entertainment/loki-in-norselore/147895

bottom of page